สธ. ชง ศบค. ใช้มาตรการเข้ม
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโ ควิด 19 ระลอกนี้ เรียกได้ว่ายาวนานสุดๆ

แถมยอดผู้ติดเชื้อยังคงพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ จากหลักร้อยพุ่งสู่หลักพัน จนตอ นนี้อาจจะพุ่งขึ้นหลักหมื่นเลยก็ว่าได้

ส่งผลให้วันที่ 8 กรกฏาคม 2564 เวลาประมาณ 11 โมงเช้า นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด กระ ทรวงสาธา รณสุข(สธ.)

ได้มีการออกแถลงการด่วนเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิ ด-19 นี้ ว่า

จากที่ได้ประชุมกับศู นย์ปฏิ บัติการท างกา รแพ ทย์และสาธารณ สุขฉุก เฉินเกี่ยวกับโรคโ ควิด 19

ร่วมกับคณะ ที่ปรึกษาด้านสาธ ารณสุข ศบค. และ คณบดีคณะ แพทยศ าสตร์ใน พื้นที่ กทม.

ทุกคณะมีความเห็นตรงกันว่า ควรจะเสนอ ศบค. ให้มีการยกระดับมตรการทางสังคมเพิ่มขึ้น

โดยให้มีการจำกัดการเดินทาง ให้หยุดอยู่บ้านเพื่อหยุดเชื้อ ไม่ควรออกนอกบ้าน

ยกเว้นจะออกไปหาอาหาร ไปหาหมอ หรือฉีดวัคซีน อีกทั้งยังห้ามไม่ให้เดินทางข้ามจังหวัด

ปิดสถานที่ที่ทำให้เกิดความเสี่ยงทุกที่ ที่ไม่มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตในประจำวัน

แต่จำพวกตลาด หรือซูเปอร์มาร์เก็ต ให้เปิดได้ เนื่องจากประชาชนจะต้องมาซื้ออาหาร

โดยทุกอย่างนี้จะหยุดเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน ซึ่งหากได้ติดตามข่าวโค วิด 19 วันนี้

จะพบว่า มียอดผู้ติดเชื้อถึง 7000 คน ตอ นนี้สะสมยอดผู้ติดเชื้อกว่า 2.8 แสนคนแล้ว

ถือว่าเป็นตัวเลขที่เยอะมากๆ ซึ่งส่วนใหญ่มีการแพร่ระบาดที่กรุงเทพ และได้แพร่ไปตามต่างจังหวัด

หากดูตัวเลขของผู้ติดเชื้อแล้วจะพบว่า มีผู้ป่ว ยติดเชื้อต้องการใช้เตียงจำนวนมาก

จึงทำให้ต้องมีการเร่งหามาตรกรที่ทำให้เกิดประโยชน์สูงที่สุด ประกอบการมีการฉีดวัคซีนและ

ตรวจหาผู้ติดเชื้อโ ควิดด้วย ซึ่งถ้าหากใช้การตรวจแบบ แรท บิทเอน ติเจน เทส เข้ามาร่วมด้วย

ก็จะทำให้มีการเข้าถึงการตรวจโควิ ดที่มากขึ้น จากเบื้องต้น นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค

จึงได้มีความเห็น เสนอให้มีการใช้มาตรการนี้เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน ตามเวลาในการฟักตัวของโรคนี้

ซึ่งมาตรการนี้จะเหมือนกับช่วงเดือนเมษายนปีที่แล้ว รวมไปถึงมีการเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชน

ซึ่งหากทั้งหมดนี้ได้รับความร่วมมือจากประชาชน เชื่อว่าผู้ติดเชื้อจะน้อยลงและลดลงภา ยใน 2 สัปดาห์
